รีวิว จุดเด่น Prins VSI-3 DI นวัตกรรมติดแก๊สรถยนต์ สำหรับเครื่องยนต์ Direct Injection (ระบบฉีดตรง)
Prins VSI-3 DI คือ นวัตกรรมติดแก๊สรถยนต์ ถูกออกแบบและพัฒนาสำหรับเครื่องยนต์ Direct Injection (ระบบฉีดตรง) เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มีความ “สมบูรณ์แบบ” มากที่สุด (The Revolutionary LPG System) จากแบรนด์ผู้นำด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Prins ประเทศเนเธอร์แลนด์ Prins VSI-3 DI ได้รับการพัฒนาร่วมกับอู่ติดตั้งแก๊สชั้นนำทั่วโลก มานานกว่า 8 ปี

จุดเด่นของชุดแก๊ส Prins VSI-3 DI คือ ระบบแก๊สคุณภาพสูง (High Quality System) อุปกรณ์แก๊สเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย (Innovation) ที่ได้มาตรฐานการผลิตขั้นสูงระดับ OEM ประสิทธิภาพความแม่นยำสูง (ฺBest Performance) ประกอบกับ ระบบซอฟต์แวร์สุดอัจฉริยะ ในแบบฉบับของ Prins ที่เลียนแบบได้ยาก ทำให้ระบบนี้มีความเสถียรและแม่นยำสูง คำนวณค่าการจ่ายเชื้อเพลิงได้ละเอียด (เป็นกรัมต่อวินาที) ช่วยประหยัดขั้นสุดด้วยการจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแก๊ส 99.99% ตั้งแต่รอบเดินเบา (แทบไม่มีการฉีดน้ำมันผสม มีเพียงแค่การสเปรย์น้ำมันเพียงเล็กน้อย ในจังหวะคิดดาวน์)
ดังนั้น Prins VSI-3 DI คือคำตอบที่ “ดีที่สุด” สำหรับคนที่กำลังมองหาทางเลือกติดแก๊สรถยนต์ ระบบฉีดตรง (DI) รวมถึงเครื่องยนต์ไฮบริด (Hybrid/HEV) ที่ทั้งปลอดภัย ประหยัด และได้มาตรฐานระดับโลก
อุปรณ์แก๊สในชุด Prins vsi3 di




Prins AFC ซอฟต์แวร์สุดล้ำฉลาดเหนือชั้น
ความพิเศษของซอฟต์แวร์ Prins คือ เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 15 ปี มีฟังก์ชั่น/พารามิเตอร์ในการปรับจูน หรือปรับตั้งค่าการทำงานของระบบแก๊ส/อุปกรณ์ และการจ่ายเชื้อเพลิงที่ละเอียดมากกว่า 6,000 ตาราง (Calibration Parameters) ทำให้การปรับจูนในระบบแก๊ส Prins มีความแม่นยำสูง เหนือกว่าและต่างจากทั่วไป ยากต่อการเลียนแบบ ตัวอย่างเช่น
- ระบบบันทึกข้อมูลบน Clound (ecu history) + Firmware Online (ไฟล์จูน Online)
ปัจจุบัน Prins ถือเป็นแบรนด์เดียวในโลกที่พัฒนาระบบการเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้ใน Clound (Data Log) ผ่านกล่องอีซียู Prins AFC ซึ่งเปรียบได้กับกล่องดำบนเครื่องบิน เพื่อให่อู่/ช่างตรวจสอบได้ง่ายขึ้น วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้ถูกต้องตรงจุด (ลดความผิดพลาด ไม่ต้องเดา ลดเวลาการทำงานของช่าง เซฟค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า มีผลต่อการรับประกัน) ไม่ว่าจะเป็น
⇒ ประวัติการติดตั้ง (วัน เวลา สถานที่ รหัสผู้ติดตั้ง)
⇒ ข้อมูลพื้นฐานของรถ, เครื่องยนต์ เช่น รุ่นรถ เลขเครื่อง รหัสเครื่อง ฯลฯ
⇒ ข้อมูลอุปกรณ์แก๊สทุกชิ้น (Unique ID Code / Serial No.)
⇒ ประวัติการทำงานของเครื่องยนต์, การทำงานของระบบแก๊ส
⇒ เก็บ Track Error code (ปัญหา) และประวัติการการแก้ไข
⇒ เก็บประวัติการซ่อมบำรุง / การเช็คระยะ (Service & Maintenance)
⇒ เก็บ Track ไฟล์จูน บน Online Server
เป็นต้น


- ฟังก์ชันในระบบ CAN OBD / E-OBD ขั้นสูง เช่น
⇒ Data Log : สามารถบันทึก Log File เก็บข้อมูลการทำงานของระบบแก๊สและเครืองยนต์ เพื่อใช้ตรวจสอบและวิเคราะห์ได้ละเอียด >1,800 พารามิเตอร์ ภายใน 1 วินาที
⇒ OBD Fix : ฟังก์ชันนี้สามารถตั้งเงื่อนไขให้จัดการกับ error code บางอย่างที่ช่างตรวจสอบแล้วว่าเป็น code ที่ไม่สำคัญ/ไม่เป็นอันตราย เพื่อแก้ไขอาการไฟ engine โชว์ (ใส่ได้สูงสุด 5 code)
⇒ Condition : สามารถเขียน code จากข้อมูล/error code เพื่อตั้งเป็นเงื่อนไข
⇒ OBD Tester : สามารถเช็คการทำงานระบบจุดเบิด, จำนวนครั้งและสูบที่เกิด misfire


- ฟังก์ชันสำหรับรถ Hybrid โดยเฉพาะ
⇒ เป็นฟังก์ชันพิเศษที่ออกแบบมาแก้ปัญหาการใช้งานรถ Hybrid ที่ติดตั้งแก๊ส ซึ่งมักมีเสียงโซลินอยด์ด้านหลังถังดังรบกวน รวมถึงช่วยให้การขับขี่สมูท สลับเชื้อเพลิงเนียนไม่สะดุด เป็นต้น
- ฟังก์ชันปรับจูน ช่วยประหยัด อัตราเร่งดี เช่น
⇒ Dead Time Gas : สามารถปรับตั้งค่าชดเชยโวลต์แบตเตอรี่ (เป็นเปอร์เซ็นต์ %) ขณะรอบตกได้
⇒ EPR Target Pressure : ฟังก์ชันพิเศษที่ใช้กับหม้อต้ม Prins eVP-500 โดยเฉพาะ โดยสามารถปรับตั้งค่าชดเชยแรงดันได้ตามรอบความเร็ว ทำให้แรงดันในระบบเสถียร ปรับเพิ่มลดได้อัตโนมัติ (ไดนามิก & Real Time) การจ่ายเชื้อเพลิงเพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ หรือเรียกว่า ตอบสนองการขับขี่ได้ดีในทุกย่านความเร็ว อัตราเร่งไม่ดรอป
⇒ FCO – Fuel Cut Off : สามารถตัดการจ่ายเชื้อเพลิงได้ทันที เมื่อถอนคันเร่ง (หัวฉีดต้องเป็น Linear, Peak & Hold)
⇒ Open Loop Control : ควบคุมส่วนผสมเชื้อเพลิง ให้ได้อัตราส่วนที่เหมาะสม ในจังหวะหัวฉีดเปิด
⇒ Wall Wetting : แก้อาการจ่ายเชื้อเพลิงหนาก่อน 1 จังหวะ ลดความคลาดเคลื่อนจากการเจาะท่อไอดี ซึ่งมีโอกาสทำให้แต่ละสูบจ่ายเชื้อเพลิงไม่เท่ากัน



- ระบบ OBD-CAN Gateway
เทคโนโลยีที่ทำหน้าที่ เชื่อมต่อและสื่อสาร ระหว่างกล่อง ECU ของรถยนต์ กับกล่อง ECU ของระบบแก๊ส Prins VSI-3 DI ผ่านเครือข่าย CAN-Bus ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานในรถรุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้รับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยควบคุมต่าง ๆ เช่น เครื่องยนต์, เกียร์, เบรก ฯลฯ ทั้งนี้ เนื่องจากเครื่องยนต์ระบบฉีดตรง (Direct Injection) มีความละเอียดในการควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงสูง ดังนั้น การติดตั้งแก๊สจึงต้องมีระบบ OBD-CAN Gateway เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานจะสัมพันธ์กับระบบเดิมของรถ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอาการสะดุด, อัตราเร่งดรอป, หรือ เครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด
ทำไม PRINS VSI-3 DI คือคำตอบที่ดีที่สุด ติดแก๊ส PRINS มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง🚗💨
✔️ ขั้นสุดของเทคโนโลยี ติดแก๊สเครื่องยนต์ DI, DI-MPI, DI-Hybid
✔️ อุปกรณ์แก๊ส คุณภาพสูง มาตรฐานสากล
✔️ ฉลาดเหนือชั้นด้วยซอฟต์แวร์ Prins AFC V2 ที่ควบคุมการทำงานของระบบแก๊สได้ละเอียดแม่นยำ มีความเสถียรสูง
✔️ ไฟล์จูน เฉพาะรุ่นรถ “สมบูรณ์ที่สุด” อู่ชั้นนำทั่วโลก ร่วมวิจัยพัฒนา
✔️ ช่วยประหยัด คุ้มค่าการใช้งาน ลดค่าใช้จ่าย 60-70%
✔️ สมรรถนะ/อัตราเร่งดี ขับขี่เหนือระดับ ไม่ต่างจากน้ำมัน
✔️ การสึกหรอต่ำ หมดห่วงเครื่องยนต์เสียหาย
✔️ มลพิษต่ำที่สุด (CO, CO2, NOX, HC, PM 2.5)
✔️ แก้ปัญหาเดิม ๆ ของรถติดแก๊สในอดีต
✔️ มีตัวแทนติดตั้ง Prins และซ่อมบำรุง ครอบคลุมทั่วประเทศ
✔️ รับประกัน อุปกรณ์แก๊ส 2 ปี หรือ 100,000 กม.
Prins VSI-3 DI ผ่านการทดสอบรับรองมาตรฐานสากล
อุปกรณ์ทุกชิ้นในชุด Prins VSI-3 DI ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสูง อาทิ
1. มาตรฐานระบบแก๊สและยานยนต์
✅ ECER67-01: มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ในระบบ LPG (แก๊สหุงต้ม) สำหรับยานยนต์ ซึ่งออกโดย UNECE (สหประชาชาติด้านยานยนต์) ใช้บังคับในยุโรปและหลายประเทศทั่วโลก
✅ ECER 110: คล้ายกับ ECER67-01 แต่ใช้สำหรับ CNG (Compressed Natural Gas) หรือ NGV ควบคุมอุปกรณ์ระบบก๊าซธรรมชาติอัด เช่น: ถังก๊าซ CNG, หม้อต้ม, วาล์วแรงดันสูง ฯลฯ
✅ ECER 115: มาตรฐานการติดตั้งระบบเชื้อเพลิงทางเลือกแบบ Retrofit (ติดตั้งภายหลังจากโรงงาน) ครอบคลุมทั้งในด้านขั้นตอนการติดตั้งระบบ LPG / CNG ในรถยนต์, การทดสอบการปล่อยไอเสียหลังติดตั้ง (Emission Compliance), การรับรองว่าเครื่องยนต์ยังคงผ่านมาตรฐานมลพิษเดิมแม้ติดแก๊ส
✅ CSA (Canadian Standards Association): มาตรฐานความปลอดภัยจากแคนาดา โดยเฉพาะในระบบพลังงาน เช่น อุปกรณ์ LPG/CNG/Hydrogen, มาตรฐานการออกแบบ อุปกรณ์และความปลอดภัยของถัง/วาล์ว/ท่อ เป็นที่ยอมรับในแถบอเมริกาเหนือ
✅ EPA Regulations (Environmental Protection Agency, USA): กฎระเบียบของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับ การควบคุมการปล่อยไอเสียของยานยนต์ (Emission Standards), ระบบเชื้อเพลิงทางเลือกต้องไม่ทำให้ค่ามลพิษเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด, อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ต้องไม่รบกวนการทำงานของ ECU เดิม
2. มาตรฐานการผลิตขั้นสูงระดับ OEM
✅ ISO/TS 16949 (IATF 16949): มาตรฐานเฉพาะของอุตสาหกรรมยานยนต์ ครอบคลุมการควบคุมคุณภาพการผลิต สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับค่ายรถ OEM (เช่น Toyota, BMW, Mercedes-Benz) โดยต้องมีระบบควบคุมการตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
✅ ISO 9001:2008: มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพสากล กำหนดให้มีการจัดการคุณภาพที่เป็นระบบ ตรวจสอบได้ และเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นพื้นฐานที่ใช้กับทุกอุตสาหกรรม
3. มาตรฐานด้านมลพิษ EURO 6
✅ Euro 6: มาตรฐานการควบคุมการปล่อยมลพิษของรถยนต์ในสหภาพยุโรป ควบคุมการปล่อย CO (คาร์บอนมอนอกไซด์), NOx (ไนโตรเจนออกไซด์), PM 2.5 (ฝุ่นละอองเล็ก), HC (ไฮโดรคาร์บอน) > รถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 6 ถือว่ามีมลพิษต่ำที่สุด ดังนั้น ระบบแก๊สที่เหมาะสมในการติดตั้งอย่าง Prins VSI-3 DI จึงจำเป็นต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานนี้เช่นกัน