หม้อต้ม Prins CPR 140-150 hp

หม้อต้ม Prins รุ่น CPR 140-150 แรงม้า

หม้อต้ม Prins รุ่น CPR 140-150 แรงม้า จุดเด่นจัดว่าเป็นหม้อต้มมาตรฐานสูง แรงดันค่อนข้างนิ่ง ถูกเซ็ตค่าแรงดันมาตรฐานไว้ที่ 1.2-1.4 bar รองรับกำลังได้ถึง 140-150 แรงม้า ติดตั้งได้ในรถทุกรุ่น ทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหา ถูกเลือกมาไว้ในชุดแก๊ส Prins Technomax ระดับราคาออกแบบมาเพื่อความประหยัด ข้อดีคือ เมื่อถูกติดตั้งและใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์ในชุดแก๊ส Prins Technomax อาทิ กล่องอีซียู AFC COMPACT PRO 4D ที่มาพร้อม “ชิปอีซียู” สุดอัจฉริยะ ประมวลผลรวดเร็วแม่นยำ, รางหัวฉีด Prins GEMINI กับกลยุทธ์การจ่ายแก๊สแบบ Linear และ Peak & Hold ประสิทธิภาพสูง บวกกับฟังก์ชันพิเศษใน Software Prins VSI-2.0 ที่จะควบคุมการทำงานของระบบ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ระบบแก๊ส LPG สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ได้ทั้งสมรรถนะ อัตราเร่งที่ดี ขับขี่สมูท ลดการสูญเสียเชื้อเพลิง และประหยัดคุ้มค่ามากกว่าเดิม 

Prins CPR : คุณสมบัติเด่น & สเปค  

• ประสิทธิภาพสูง  รองรับ 140-150 แรงม้า
• ค่าแรงดันมาฐาน  ถูกตั้งไว้ที่ 1.2-1.4 bar
• มีระบบ Shut-off solenoid valve
• Operating temperature -20 – 120 °C
• Operating input pressure 2.5 – 3.0 bar
• Operating voltage range 8 – 16 Vdc
• ขนาดกะทัดรัด น้ำหนัก 1.2 kg

Prins CPR : จุดอ่อน 

อย่างไรก็ตาม หม้อต้มรุ่นนี้ ก็มีจุดอ่อนอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น…

• แรงดันขณะใช้งานอาจตกบ้างเล็กน้อย เวลาเหยียบคันเร่ง/คิกดาวน์ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่รับได้ ประกอบกับในระบบซอฟต์แวร์ของ Prins มีฟังก์ชันที่สามารถปรับจูนในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยชดเชยเวลาแรงดันตก ทำให้ยังคงรักษาสมรรถนะการขับขี่และการใช้งานให้สมูทสมบูรณ์ได้ 
• มียางปะเก็น (ไดอะแฟรม) เป็นส่วนประกอบภายใน ทำให้เวลาใช้งานไปนาน ๆ ระดับ 1-2 แสน กม. อาจทำให้มีโอกาสที่น้ำจะรั่วได้ เพราะยางปะเก็นเสื่อมสภาพจากการเจอความร้อนในห้องเครื่องเป็นเวลานาน (อาการปกติของหม้อต้มทั่วไป) ซึ่่งไม่น่ากังวล สามารถป้องกันแก้ไขได้ด้วยการหมั่นดูแล สังเกตอาการ เข้ารับการตรวจสภาพ เช็คระยะตามปกติ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด

…สิ่งที่เราย้ำเสมอคือ  “อุปกรณ์ติดแก๊ส   Prins  การันตีคุณภาพที่ดีเสมอ “

รู้หรือไม่? ประสิทธิภาพการใช้งาน หม้อต้มแก๊ส LPG วัดจากปัจจัยอะไรบ้าง?

สำหรับประสิทธิภาพการใช้งาน หม้อต้มแก๊ส LPG จะดีหรือไม่ หรือได้ตามสเปคที่ระบุหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น 

1. วิธีการติดตั้ง และคุณภาพวัสดุอุปกรณ์ →  หากติดตั้งได้มาตรฐาน ติดตั้งถูกวิธี แน่นหนา ตำแหน่งที่เหมาะสม เลือกใช้ท่อแก๊ส, ท่อยาง, ข้อต่อ, สายรัดต่าง ๆ ที่มีขนาดพอดี (ไม่คับหรือหลวมเกินไป) และเป็นเกรดคุณภาพสูง นอกจากหายห่วงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี สมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ
2. แรงดันขณะใช้งาน นิ่งหรือไม่? → ดูว่าตอนเหยียบคันเร่ง/คิกดาวน์ หากแรงดันไม่ตก ตกบ้างเล็กน้อย ถือว่ามีประสิทธิภาพใช้งานได้ดี 
3. อัตราการไหล หรือ Flow เป็นอย่างไร? →  ประสิทธิภาพหม้อต้ม จะรองรับแรงม้าได้ตามสเปคหรือไม่ ต้องใช้ท่อแก๊ส/แปปทองแดงที่มีขนาดพอดี + แข็งแรง และในการติดตั้งไม่ควรเกิดการพับ หักงอ หรือเบียดกันแน่นเกินไป เพราะมีผลกับ Flow (แรงดันดี โฟลดี อัตราเร่งก็ดีด้วย) 

เป็นต้น